จากคู่ผสมในตำนาน”ส้ม-เต่า” กว่ากำลังจะถึงวันของ “บาส-ปอป้อ” ผู้ชนะ 8 แชมป์

เป็นความเสร็จสูงสุด pgslot999 ถ้าเกิดวัดถึงผลงานกลุ่มแบดมินตันไทยในตอนนี้ เป็นแชมป์ลำดับที่ 8 ของการประลองจำพวกคู่ผสมจาก “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สมบัติสิรี แต้รัตนชัย

การได้แชมป์ “ไฮโล โอเพ่น 2021″ในประเทศเยอรมนี pgslot999 รายการปัจจุบัน ทำให้ชั้นคะแนนของ “บาส-ปอป้อ” ขยับขึ้นเป็นชั้น 2 ของโลก (อีกรอบ) โดยลำดับแรกๆยังเป็น “หวง หย่าเฉ” กับ “ฉาง สิเหว่ย” คู่จากจีน

แม้กระนั้น ชั้น 2 ของโลกในจำพวกคู่ผสม หาใช่เกิดเรื่องใหม่ ด้วยเหตุว่าก่อนนี้ในสมัยของ “นินจาเต่า” สุดเขต ประภาหัวใจ กับ “ผู้พันส้ม” สราลีย์ ทุ่งทอง ก็เคยอยู่ในจุดนี้มาแล้ว

ก่อนที่จะ “สราลีย์ ทุ่งทอง” ห้อยเร็กเก็ตจากการบาดเจ็บ ก่อนผันตัวเป็นผู้ฝึกสอนถ่ายทอดความรู้ให้ “รุ่นน้อง” คู่ผสม “บาส-ปอป้อ” ในสำนัก “เอสซีจี แบดมินตัน อค้างเดมี่” ในเวลาถัดมา

ตลอดขณะนับสิบปี “ส้ม” สราลีย์ ทุ่งทอง กับ “เต่า” สุดเขต ประภาใจ นับว่าเป็นคู่ผสมมือ 1 ของไทยที่บรรลุเป้าหมายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ยืนยันผลงานเป็นการเป็นแชมป์ทวีปเอเชีย 2005 ซึ่งถือว่าไม่ต่างจากการเป็นแชมป์โลก เมื่อวัดจากยอดความสามารถที่ลงกระทำแข่ง

เป็นคู่ผสมแชมป์กีฬาซีเกมส์ 2 ยุค รวมทั้งผ่านศึกโอลิมปิก 4 ยุคซ้อน ตั้งแต่แมื่อปี 2000-2012

ในโอลิมปิกเกมส์ 2012 “ลอนดอน เกมส์” คู่ผสมไทย “ส้ม-เต่า” เข้าถึง 8 คู่ท้ายที่สุด ก่อนไปแพ้ โจอาคิม พิคพบร์ กับ คริสว่ากล่าวน่า พีเดอร์สังเวย จากเดนมาร์ก คู่ผสมมือ 3 ของโลก 0-2 เกม

จนถึงมาถึง โอลิมปิก 2016 “ริโอ เกมส์” คู่ของ “สราลีย์ ทุ่งทอง-สุดเขต ประภาหัวใจ” ยังเป็นคู่กรณีหวัง ถึงแม้อยู่ในช่วงปลายอาชีพนักกีฬา โดย สรารีย์ เวลานั้นอายุ 37 ปี โดยที่ สุดเขต อายุ 36

แม้กระนั้นราวกับโชคไม่เข้าข้าง “ส้ม-สรารีย์” ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหัวเข่าซ้ายระหว่างการลงเล่นรอบ 2 แบดมินตันระดับกรังด์ปรีซ์โกลด์ รายการปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ 2016 ที่ตึกนิไม่ลูก สำหรับในการเจอกับคู่จากประเทศสิงคโปร์

ผลจากอาการบาดเจ็บคราวนั้น หมอตรวจอาการพบว่าเอ็นหัวเข่าข้างๆขาด และก็หมอนรองกระดูกใต้สะบ้ามีรอยฉีก จำต้องพักนาน 4-6 เดือน หดหู่ร่วมกีฬาโอลิมปิก 2016 พร้อมห้อยเร็ตเกตปิดตำนานขนไก่คู่ผสม “สุดเขต-สราลีย์” ไปโดยปริยาย

โดยใน “ริโอ เกมส์ 2016” คู่ผสม ของไทยที่ร่วมเป็น บดินทร์ อิสระ และก็ สาวิตรี อมิตรปราชัย แต่ว่าผลงานไม่เป็นไปตามคาด แพ้สองครั้งแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ไม่เข้ารอบไปก่อนใครกันแน่ ก่อนที่จะทั้งสองจะถอนตัวออกมาจากชมรมฯ ในเวลาถัดมา

จนถึงการแจ้งกำเนิดคู่ผสมคู่ใหม่ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สินสิรี แต้รัตนชัย สองนักแบดมินตันจากแผนการ “เอสซีจี แบดมินตัน อค้างเดมี่” สำนักผลิตนักแบดมินตันระดับต้นของโลก

ที่สำคัญเป็นจากผู้ฝึกสอนจากสมัยก่อนนักกีฬาแบดมินตันจากจำพวกคู่มาสานการบรรลุผล โน่นเป็น ผู้ฝึกสอนโอม–เทศน์ พันธ์วิศวาส หัวหน้าครูฝึก รวมทั้งสืบต่อจาก “ผู้ฝึกสอนส้ม-สราลีย์ ทุ่งทอง” ที่ผันตัวจากผู้เล่นมาเป็นผู้ฝึกสอนสุดกำลัง

ตอนแรก “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ เด็กวัยรุ่นจากจังหวัดชลบุรี เริ่มฝึกซ้อมตีลูกแบดมินตันจาก “ศรีราชาสปอร์ตคลับ” ร่วมชายคา “เอสซีจี” ตั้งแต่อายุ 14 ด้วยรูปร่างเล็กมีความคล่องตัวก็เลยไปจับคู่ “สกาย-คำเล่าลือนุดงษ์ เกตุเรน” ลงกระทำชิงชัยจำพวกชายคู่

รวมทั้งนับว่าผลงานไม่ธรรมดา เมื่อสามารถคว้าชัยชนะชายคู่สำหรับในการชิงชัยแบดมินตันเยาวชนโลกมาครอบครองในปี 2014

ในตอนที่ “ปอป้อ” ทรัพย์สมบัติสิรี แต้รัตนชัย อยู่ใน “เอสซีจี แบดมินตัน อติดอยู่เดมี่” ตั้งแต่อายุ 15 ปี ฝ่าเล่นในจำพวกหญิงผู้เดียว

แบดมินตันหญิงลำพังของ “ปอป้อ” ก็ไม่ธรรมดา เมื่อก้าวหน้าไปถึงการคว้าเหรียญทองใน “ยูธ โอลิมปิกเกมส์ 2010” ประเทศสิงคโปร์

จนถึงปี 2015 หรือ พุทธศักราช2558 ตำนาน “บาส-ปอป้อ” ก็เริ่มขึ้น

สต๊าฟผู้ฝึกสอนใน “เอสซีจี” ประสานมือดัน “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สมบัติสิรี แต้รัตนชัย แท็กทีมกันเป็นคู่ผสมคนใหม่ ลงหยั่งดูท่าทีเปิดฉากแข่งขันรายการแรกในศึกชิงชนะเลิศเมืองไทย (SCG All Thailand Badminton Championships 2015)

ผลงานในทัวร์ทุ่งนาเม้นท์แรก ทั้งสองดำเนินงานใส่ผสานสำหรับในการรับรุกก้าวหน้า ก่อนตระเวณชิงชัยหาประสบการณ์ในรายการต่างถิ่น

กระทั่งถึงจุดแจ้งกำเนิดสำคัญ ในกีฬาซีเกมส์ 2017 หรือ พุทธศักราช2560 ที่ประเทศมาเลเซีย ข้างหลังร่วมกลุ่มกันได้เพียงแค่ปีเศษ “บาส” เดชาพล ควงคู่ “ปอป้อ” สินทรัพย์สิรี คว้าเหรียญทองสำหรับการแข่งชนิดคู่ผสม

ไม่เพียงเท่านี้ ปีเดียวกัน ทั้งสองยังคว้าชัยชนะทัวร์ท้องนาเม้นท์แรกได้เสร็จในรายการ “โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2017” บวกกับอีก 3 รองแชมป์จากรายการ ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2017, ประเทศสิงคโปร์ โอเพ่น 2017 แล้วก็ ชิงชนะเลิศทวีปเอเชีย 2017

ในขณะฟอร์มกำลังรุนแรง ทั้งสองก็จำต้องสะดุด ด้วยเหตุว่า “ปอป้อ” ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหัวเข่า ในระหว่างลงเล่นหญิงคู่กับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล ในปีเดียวกันนั้น

อาการหนักเกินรักษาโดยใช้การนวดทาทำให้ “ปอป้อ” จะต้องเข้ารับการผ่าผัดและก็ฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างมากภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากกลุ่มวิทยาศาสตร์การกีฬา นำโดย “ศาสตราจารย์ดร.เจริญรุ่งเรือง กระบวนรัตน์”

หลังจากที่ได้ใช้เวลารักษากว่า 8 เดือน ในปี 2561 ปอป้อกลับมาคืนคอร์ต เริ่มนับหนึ่งใหม่อีกรอบสำหรับเพื่อการเล่นคู่กับ “บาส” ทั้งสองใช้เวลาเพียงแค่ไม่นาน ก็เริ่มกลับมาบรรลุเป้าหมายอีกที

เริ่มจากการคว้ารองแชมป์รายการ “เดนมาร์ก โอเพ่น 2018” และก็ทำแต้มสะสม ผ่านเข้าไปเล่นในรายการ “เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2018” ที่จีน ก่อนที่จะสร้างผลงานเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกด้วย

ปีต่อมา 2019 หรือ พุทธศักราช2562 “บาส-ปอป้อ” ปรับปรุงตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ปัดกวาดแชมป์ได้ถึง 3 รายการเป็น ประเทศสิงคโปร์ โอเพ่น 2019, วัวเรีย โอเพ่น 2019 และก็ มาเก๊า โอเพ่น 2019

นอกเหนือจากนั้นยังพ่วงด้วยรองแชมป์อีก 3 รายการ ซึ่ง 1 ในนั้น เป็นการประลองชิงชนะเลิศโลก 2019 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งยังฝ่าด่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2019 ได้เป็นยุคลำดับที่สองต่อเนื่องกันอีกด้วย

ถึงปี 2563 หรือ 2020 บาส-ปอป้อ ทะลุเข้าชิงแชมป์รวมทั้งคว้ารองแชมป์รายการที่ยิ่งใหญ่รวมทั้งโบราณที่สุดของโลกอย่าง “ออล อิงแลนด์ โอเพ่น 2020” เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะการประลองแบดมินตันทั่วทั้งโลกจะถูกยกเลิกไป เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด 19

มาถึงปีปัจจุบัน 2021 พุทธศักราช2564 ต้นปี กีฬาลูกแบดมินตันเริ่มกลับมาชิงชัยกันใหม่ เมืองไทยเป็นเจ้าภาพ 3 รายการใหญ่ “บาส-ปอป้อ” ไม่ทำให้ผิดหวังสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการกวาด 3 แชมป์ ทั้งยัง โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น และก็เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020

สร้างสถิติเป็นคู่ผสมคู่แรกที่คว้า “ทริปเปิ้ลแชมป์” ในรายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 สามอาทิตย์ต่อเนื่องกัน พร้อมๆกับการก้าวขึ้นสู่มือชั้น 2 ของโลก

การบรรลุผลพร้อมความคาดหมายจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิก “เมืองโตเกียว เกมส์” แปลงเป็นเหตุการณ์ที่บีบคั้น “บาส-ปอป้อ” ไปจบทางเพียงรอบ 8 คู่ท้ายที่สุด เมื่อพ่ายแพ้ให้คู่ผู้จัดงาน ยูตะ วาตาที่นาเบะ กับ อาริสา ฮิกาชิโนะ จวนเจียน 1-2 เกม ภายหลังที่ออกตัวได้เกมแรกจากประเทศญี่ปุ่นไปก่อน

กลับจาก “เมืองโตเกียว” ทั้งสองอุตสาหะลืมความไม่สมหวัง เป็นอันมากหลักให้กลุ่มชาติทั้งยัง นักปราชญ์รมาน คัพ, โทมัส คัพ รวมทั้ง อุเบอร์ คัพ ที่ราชอาณาจักรเดนมาร์ก แล้วก็มาคว้ารองแชมป์ “เดนมาร์ก โอเพ่น 2021”

ก่อนที่จะผงาดแชมป์ “ไฮโล โอเพ่น 2021” โดยปราบคู่ต่อสู้จากอินโดฯ 2-0 จำพวกสาแก่ใจกองเชียร์คนประเทศไทยทั่วทั้งประเทศ

สำหรับในตอน 6 ปี ในระดับโลกของ “บาส-ปอป้อ” เข้าชิงแชมป์ถึง 19 รายการ ปละไปถึงเป้าหมายคว้ามา 8 แชมป์ มี สวิส โอเพ่น 2017, มาเก๊า โอเพ่น 2019, วัวเรีย โอเพ่น 2019, ประเทศสิงคโปร์ โอเพ่น 2019

และก็ปัจจุบันในปีนี้ปัดกวาดไปแล้ว 4 แชมป์ จาก โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น, เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ แล้วก็ ไฮโล โอเพ่น 2021

ย้อนมองประวัติความเป็นมาอีกรอบของ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กำเนิดเมื่อ 20 พ.ค. 2540 ที่ศรีราชา จ.ชลบุรีเป็นคนชอบใจสำหรับการเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเล่นอีกทั้ง บอล, กรีฑา และก็ เทนนิส ก่อนที่จะเขาจะเริ่มมาศึกษาค้นพบว่า ตัวเองคลั่งไคล้ใน แบดมินตัน เยอะที่สุด เพราะเหตุว่ามี “แมน” บุญศักดา พลสนะ สมัยก่อนนักแบดมินตันชายคนเดียวของไทย สมัยก่อนมือ 4 ของโลก เป็นไอดอล

จนกระทั่งเข้าขึ้นตรงต่อ สมาพันธ์แบดมินตันศรีราชา ฝึกซ้อมความชำนาญ แล้วก็ปรับปรุงความสามารถอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งสามารถได้แชมป์ในระดับเยาวชน ทุกรุ่นอายุ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นยุวชน 11 ปี, 13 ปี และก็ 15 ปี ในเขตภาคกึ่งกลาง

ถัดมาบรรลุความสำเร็จครอบครองแชมป์ระดับประเทศในเขตภาคกึ่งกลางได้ ทั้งยังรุ่น 14 ปี และก็ 16 ปี สำหรับการชิงชัย เยาวชนชิงชนะเลิศเมืองไทย (SCG Junior Badminton Championships) ทำได้โอกาสได้เซ็นสัญญาร่วมในโครงงาน เอสซีจี แบดมินตัน อติดอยู่เดมี่ ในปี 2553

ข้างหลังเข้าชายคา “เอสซีจี” ผู้ฝึกสอนโอม-เทศน์ พันธ์วิศวาส ครูฝึกของโครงงานแลเห็นแววว่า บาส เหมาะสมที่จะเล่นในจำพวกคู่ ก็เลยไปจับคู่กับเพื่อนพ้องร่วมรุ่นอย่าง “สกาย” คำเลื่องลือนุดงษ์ เกตุเรน

ข้างหลังลงเล่นชายคู่ได้เพียงแต่ 2 ปี “บาส-สกาย” ประกาศอำนาจได้แชมป์ เยาวชนชิงชนะเลิศโลก 2014 ที่ประเทศมาเลเซีย ได้เสร็จ แต่ว่าตั้งแต่แมื่อนั้นมาทั้งสองก็ไม่สบการบรรลุผลเหมือนอย่างที่คิด ด้วยเหตุว่าต่างรูปร่างเล็กรวมทั้งมีก้างสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่จากอินโดฯ รวมทั้ง มาเลย์

จนถึงวันหนึ่งในปี 2015 บาสขอ “ผู้ฝึกสอนโอม” ต้องการทดลองจับคู่กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สินสิรี แต้รัตนชัย รุ่นพี่คนคุ้นเคยเพื่อลงแข่งขันในชนิดคู่ผสมดูบ้าง ก่อนที่จะสต๊าฟผู้ฝึกสอนของ เอสซีจี ลงหยั่งเชิงในคู่ผสมชิงชนะเลิศเมืองไทยในปีนั้นเอง

ในช่วงเวลาที่ “ปอป้อ” สินทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กำเนิดเมื่อ 18 ม.ย. 2535 ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้สืบสกุลครอบครัวนักกีฬาแบดมินตัน และก็เริ่มฝึกฝนเล่นตั้งแต่เด็กจากสนามแถวบ้าน

เริ่มชิงชัยในจำพวกหญิงคนเดียวคว้าชัยชนะในระดับเยาวชนเยอะแยะจนถึงก้าวติดกลุ่มชาติไทย

ในวัย 17 เมื่อปี 2009 “ปอป้อ” ในจำพวกลำพังยังสามารถเอาชนะ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ แชมป์หญิงโดดเดี่ยวเยาวชนชิงชนะเลิศโลก 2009 สำหรับในการแข่งรายการ มาเลเซีย ระหว่างชาติ ชาเลนจ์ 2009 ทำให้ไปครอบครองได้เสร็จ

ไม่เพียงเท่านี้ “ปอป้อ” ยังลงหญิงคู่กับ “รจนา จุฑาบัณฑิตกุล” คว้าชั้น 3 ในชนิดหญิงคู่ จากการประลอง เยาวชนชิงชนะเลิศโลก 2009 รวมทั้งเยาวชนชิงชนะเลิศทวีปเอเชีย 2009 ที่ประเทศมาเลเซีย อีกทั้ง 2 รายการ

แล้วในปี 2010 สินทรัพย์สิรี สามารถคว้าชัยชนะ ยูธ โอลิมปิก 2010 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในชนิดหญิงโดดเดี่ยว โดยไม่เสียเลยแม้กระทั้งเกมเดียวตลอดทั้งทัวร์ท้องนาเม้นต์

ผลงานในจำพวกหญิงลำพัง ยังไปครอบครองแชมป์ ยูเอส โอเพ่น 2013 พร้อมรั้งมือวางชั้น 14 ของโลก

ก่อนที่จะผันมาจับคู่ “บาส-ปอป้อ” ลงกระทำชิงชัยจำพวกคู่ผสมในปี 2015 และก็ประสบผลสำเร็จสม่ำเสมอมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้

กลับสู่หน้าหลัก